Thursday, October 16, 2008

การปรับตัวของบ้านและสวน

บ้านและสวน โปรเจคแรกที่ได้รับมอบหมายจากคัดสรรดีมากหลังการกลับมาสู่โลกของการทำงานอีกครั้ง ต้องขอบอกไว้ก่อนว่ารายละเอียดเชิงลึกทุกอย่างยังเป็นความลับทางธุรกิจ จึงไม่สามารถนำเอารูปหรือแบบร่างมาโพสให้ดูได้ในขณะนี้

นิตยสารบ้านและสวนที่อยู่คู่แฝงหนังสือบ้านเราให้เห็นมาตั้งแต่เราเองยังจำความไม่ได้ รวมระยะเวลาก็ปาเข้าไป 35 ปี โจทย์ทีไ่ด้รับมอบหมายคือปรับเปลี่ยนหัวหนังสือและเสนอแนะองค์ประกอบบางประการภายในเล่ม เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดูจะยุ่งยาก สำหรับหนังสือที่มีอายุกว่าสามทศวรรษ

สิ่งที่เราได้มาจากการย่อยข้อมูลคือ ระยะเวลาเป็นตัวพิสูจน์ความน่าเชื่อถือ บ้านและสวนจึงเปรียบเสมือนสถาบัน เป็นเหมือนผู้ใหญ่ใจดีที่เต็มไปด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่คอยแนะนำ และตอบคำถามแก่ผู้อ่าน มากกว่าการให้คำแนะนำจากเพื่อนบอกต่อ เรารู้สึกได้ว่าบ้านและสวนมีตัวตนที่ชัดเจน การปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์จึงเป็นเรื่องที่ต้องเห็นความสำคัญของการคงอยู่ของบางสิ่ง การละทิ้งบางสิ่ง มุมมองของการเปลี่ยนแปลงจึงไมใช่การเปลี่ยนเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ แต่ควรเป็นการปรับเพื่อให้สดใหม่ขึ้น อีกทั้งยังต้องการจัดหมวดหมู่ภายในเล่มให้เป็นระบบมากขึ้น โดยสร้างและจัดสรรให้เกิดจุดเด่นบางประการมาเป็นจุดเชื่อมต่อให้เกิดความสัมพันธ์กัน สิ่งที่เป็นส่วนประกอบเล็กๆน้อยๆเหล่านี้จะเป็นตัวที่สร้างให้เกิดองค์ประกอบอย่างเป็นระบบ

กระบวนการปรับเปลี่ยนหัวนิตยสารจึงได้เริ่มต้นขึ้น จากโจทย์ที่กำหนดขอบเขตไว้ จึงสรุปวิธีการออกแบบได้เป็น 3 แนวทาง

1. จากแบบแรกซึ่งมาจากหัวหนังสือดั้งเดิมหัวแรกที่เคยใช้เมื่อยี่สิบปีกว่าก่อน ซึ่งพบว่าเป็นตัวหนังสือแบบที่ดูให้ความรู้สึกทันสมัย ไม่มีหัว และแข็งแรงพอที่จะนำกลับมาพลิกแพลงเพื่อใช้ในปัจจุบันได้

2. แนวทางบนกรอบแบบหัวปัจจุบันที่เราเห็นกันอยู่ ซึ่งเป็นตัวหนังสือแบบมีหัว และการใช้งานที่ยึดติอดกับแถบแนวนอนด้านล่างสีเทาเพื่อใส่เดือน ปี หัวหนังสือแบบนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านและสวน จึงไม่ควรปรับเปลี่ยนมากจนเกินไป เพื่อให้คงเจตนาเดิมไว้ ปัญหาอยู่ที่ว่าหัวปัจจุบันนั้นเรียบเกินไปจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของโปรยปก แต่ที่มันยังทำงานเป็นหัวได้ ก็เพราะคนรู้จักบ้านและสวนอยู่แล้ว

3. การสร้่างขึ้นมาใหม่ เหมือนเป็นการสร้างโดยที่ไม่มีภูมิหลังอะไรเลย เป็นแนวทางใหม่ แบบนี้จะเป็นส่วนที่ยากที่สุด เป็นการเริ่มต้นโดยพยายามหยิบจับอะไรใหม่เพื่อมาประกอบให้เป็นบ้านและสวน

ความท้าทายที่ได้รับคือการเลือกที่จะปรับเปลี่ยนละทิ้งจุดไหนและเก็บจุดไหนไว้ และการเปลี่ยนโดยที่ไม่รบกวนบุคลิคเดิมจนเกินไป อ.นุทินเปรียบบ้านและสวนเป็นเหมือนคนคนหนึ่งคน เมื่อเวลาผ่านไปทำให้อายุเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่าหน้าตาจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร แต่ก็จะต้องดูเป็นคนๆเดิมอยู่ การปรับเปลี่ยนให้เป็นปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่เสียกระบวนความเป็นตัวตนเดิม

Wednesday, October 15, 2008

เวลาเป็นสิ่งสมมุติ



เวลาเป็นสิ่งสมมติ จริงๆมนุษย์เราสามารถเดินทางข้ามเวลาได้ ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นขณะเดินทางกลับสู่บ้านเกิด อยู่สูงลอยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ เดินทางย้อนกลับมาสิบสองชั่วโมง จากการเดินทางข้ามไปอีกครึ่งหนึ่งของโลก การเดินทางย้อนการหมุนของโลกที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ก็เหมือนเดิมทางข้ามเวลา

การเดินทางท่องเที่ยวในอเมริกา ทั้งหมด 8 รัฐในระยะเวลาสี่เดือน เนวาดา, อริโซนา, ยูทาห์, แคลิฟอร์เนีย, โคโรลาโด, อิลลินอยส์, นิวยอร์ค และเทกซัส ความแตกต่างของละรัฐ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เหมือนได้ไปเที่ยวมา 8 ประเทศ การไปครั้งนี้ปักหลักอยู่ที่ออสติน เทกซัส แต่ว่าก็ได้มีโอกาสตระเวณเที่ยวไปเรื่อยเปื่อย ความสุดขั้วมีตั้งแต่อยู่ในเมืองที่สุดแสนจะสงบ ผู้คนเป็นมิตร ไปจนถึงเมืองหลวงที่สุดแสนจะวุ่นวาย บางรัฐ บางเมืองก็ได้แค่ไปเยี่ยมชม ท่องเที่ยว แต่บางรัฐก็ได้ไปใช้ชีวิตอยู่เป็นเรื่องเป็นราว

และแล้วรู้ตัวอีกทีเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว การกลับมา ทำให้ช่วงระยะเวลาสี่เดือนที่ผ่านมาเหมือนเป็นเรื่องสมมติ ถือว่าเป็นการไปทดลองใช้ชีวตเอาแต่ใจ ลองรีไทร์ก่อนวัยอันควร ได้เที่ยว ได้กินอยู่ ได้ลองใช้ชีวิตที่เรียนรู้อะไรเยอะ ได้ประสบการณ์ ได้เจอผู้คน ได้เจอสังคมใหม่ๆ เห็นวัฒนธรรมความแตกต่าง ความเป็นระบบ ความเจริญทางด้านศิลปะ ได้ทำอะไรที่ไม่เคยคิดจะกล้าทำ ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นชัดๆกะตา เป็นการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าจริงๆ

แต่แล้วการเอาแต่ใจก็จบลง และแล้วการกลับสู่ความเป้นจริงก็ได้เริ่มต้นขึ้น.....ณ บัดนี้