Wednesday, April 2, 2008

หรรษานาสิก



งานไทยเลตเทอร์ริงชิ้นนี้ เป็นโลโก้ “ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อไว้ใช้สูดดม ให้อารมณ์ดี” ลูกค้าที่อารมณ์ดีมากๆว่ามาอย่างนั้น มีชื่อที่แปลกสะดุดหูว่า "หรรษานาสิก" (ถ้าแปลตรงๆตัวก็ความรื่นรมณ์ทางจมูกนั่นเอง) หลังจากที่ได้ชื่อ และเริ่มการวิเคราะห์แนวทางการออกแบบจากตัวผลิตภัณฑ์แล้ว เลยเกิดความคิดว่าน่าจะนำเสนออกมาในลักษณะที่ยังมีกลิ่นอายความคลาสสิกของไทย แต่แฝงความอารมณ์ดีเอาไว้ ซึ่งคิดว่าเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งที่เราสามารถนำมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับการเป็นโลโก้ของสินค้าในปัจจุบันได้

ในการออกแบบโลโก้ "หรรษานาสิก" เริ่มจากการค้นคว้าทั้งวิธีการเขียนและวิธีการใช้ตัวอักษรไทยในสมัยโบราณในรูปแบบต่างๆกัน เพื่อหาความเป็นไปได้ในการนำมาประยุกต์ จากตัวอักษรในสมัยก่อนที่ล้วนประดิษฐ์ขึ้นด้วยมือ ซึ่งถ้ามองจริงๆแล้วตัวอักษรแต่ละตัวมีเอกลักษณ์และลักษณะเฉพาะตัวที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้ค่อนข้างให้ความรู้สึกเป็นอิสระ และไม่ยึดติดกับรูปทรงที่แน่นอน แม่นยำ และตายตัว มีศักยภาพล้นเหลือที่จะสามารถหยิบจับมาพัฒนา ดัดแปลงต่อยอดต่อไปได้ โดยหาลักษณะจุดเด่นจากเอกลักษณ์เหล่านั้นมาจัดระบบ สร้างองค์ประกอบ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ และดูร่วมสมัยเหมาะสมกับความเป็นปัจจุบัน

ความเฉิ่มเชยเป็นสิ่งที่เอามาสื่อสารได้ยากเพื่อให้ความรู้สึกตกไปอยู่ในข้างของความน่ารัก งานออกแบบที่เป็นลักษณะตัวสคริบแบบสติกเกอร์สองแถว หรืออะไรที่เป็นลูกทุ่งไปก็จะเป็นปัญหาต่อแบรนด์ เราจึงมามองที่ความเก๋าของตัวอักษรสไตล์ร้านรับตัดเสื้อบูติก หรือความโมเดินท์ของกรุงเทพในยุคก่อนแทน ซึ่งแบบตัวอักษรจะเป็นอะไรที่ทื่อๆและไม่ออแกนิคมากนัก เป็นความร่วมสมัยของกรุงเทพในสมัยก่อนให้ความเฉิ่มสำหรับคนสมัยนี้โดยไม่ลูกทุ่งเกินไป

ความแตกต่างระหว่างเลทเทอร์ริงในแนวนี้สวนทางกันกับงานอย่าง "ความสุขของกะทิ" ซึ่งเป็นเลทเทอร์ริงที่พยายามสร้างโครงสร้างการอยู่รวมกันของตัวอักษรใหม่ (การเลือกใช้ฟอร์ม การจัดวาง ไปจนถึงการสร้างฟอร์มที่เป็นกลุ่มก้อน) เพื่อให้แตกต่างออกไปจากลักษณะการใช้ภาษาไทยแบบดั่งเดิม กลับกันกับเลทเทอร์ริง "หรรษานาสิก" ที่ต้องการจะดึงลักษณะเฉพาะบางประการของตัวอักษรไทยแบบเก่ามาสร้างสรรค์งานเพื่อใช้ในปัจจุบัน

Saturday, March 29, 2008

งานชิ้นแรกเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว

งานชิ้นแรกจากการเริ่มต้นทำงานที่คัดสสรดีมาก เวลาใกล้จะผ่านมาบรรจบครบหนึ่งปีแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อเปรียบเทียบงานชิ้นแรกกับปัจจุบันแล้วศักยภาพลดลงหรือเพิ่มขึ้น เลยมองย้อนกลับไปดูเสียหน่อย



โปรเจคออกแบบโลโก้ให้กับผลิตภัณฑ์สปา ชื่อ วงศ์ษา ออฟ สยาม ชื่อที่ได้ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงความอลังการในสไตล์โบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรซึ่งได้คิดค้นโดยท่านขุนวงศา มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในปัจจุบันลูกหลานต้องการรื้อฟื้นสูตรของขุนวงศ์ษา ทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อส่งขายทั้งในและต่างประเทศ ลูกค้าเล่าถึงภาพในความคิดของเขาให้ฟังว่าอยากให้โลโก้มีหน้าของท่านขุนอยู่บนโลโก้ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นสูตรแท้ดั้งเดิม (ภาพแรกที่เห็นคือกระปุกน้ำพริกตราแม่ประนอมอะไรทำนองนั้น) จึงได้ลองหลายทิศทางเพื่อต่อสู้หลีกหนีกับกระปุกน้ำพริก หาวิธีเพื่อให้เหมาะสมกับเป็นผลิตภัณฑ์สปาไทยที่มีผู้หญิงเป็นกลุ่มเป้าหมาย

ได้แนวความคิดว่าอยากนำเสนออกมาในสไตล์คลาสสิิคที่สามารถสะท้อนความเก่าแก่ของสูตรต้นตำหรับ จึงเลือกตัว "W" ซึ่งเป็นตัวอักษรแรกของชื่อมาออกแบบเป็นสัญลักษณ์ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากลายเส้นในสไตล์โบราณ และการเขียนตราประจำตระกูลที่มักใช้ตัวอักษรมาประดิษฐ์ตกแต่งล้อมด้วยลวดลาย ซึ่งทำการค้นคว้าหาตัวอย่างของโลโก้บนแพคเกจจิ้งไทยในยุคนั้น มาประกอบกับการวาดเส้นเวคเตอร์ของกราฟิกยุคปัจจุบัน

มีจุดเด่นที่ความอ่อนช้อยและดูนุ่มนวล ทั้งยังให้ความรู้สึกที่ดูหรูหรา สมกับเป็นผลิตภัณฑ์สปา ลายเส้นมีความคล้องจอง เชื่อมโยงกัน ให้เกิดความเป็นมวลเป็นกลุ่มก้อน เพื่อให้ได้ความรุ้สึกเหมือนเป็นตราสัญลักษณ์หตระกูลในสมัยโบราณแต่ร่วมสมัย เนื่องจากเป็นงานชิ้นแรกที่ได้รับผิดชอบจึงโดนรื้อเรื่องสัดส่วน อยู่หลายต่อครั้ง ซึ่งอานิสงส์ก็ได้ไปตกอยู่กับพิคเจอร์ฟอนต์ และโลโก้อื่นๆที่ได้รับผิดชอยในเวลาต่อมา