ถ้าลองหยุดและนั่งมองสังเกตสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ทุกสิ่งล้วนมีที่มาที่ไปและมีกระบวนการที่สลับซับซ้อนในตัวมันเอง แต่หากจะใช้คำว่าทุกสิ่งมาอธิบายประโยคข้างต้นก็ดูจะเป็นจำนวนที่คลอบคลุมมากเกินไป สิ่งของซักหนึ่งชิ้นกว่าจะออกมาเป็นงานที่เสร็จสมบูรณ์ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ผ่านการคิด กลั่นกรอง ลองผิดลองถูก เพื่อให้ได้ผลงานที่สมบูรณ์ที่สุด แต่สิ่งต่างๆเหล่านั้นก็ได้ถูกตัดทอนหรือบั่นทอนลงไปตามกาลเวลา
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก เช่นนาฬิกาเรือนแรกของโลก โทรศัพท์เครื่องแรกของโลก กล้องเครื่องแรกของโลก ย่อมมีกระบวนการในการสร้างสรรค์นับร้อย นับพันกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ออกมาให้เราเห็นจนเป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบัน แต่เมื่อสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้ถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาแล้ว สิ่งต่อมาที่เหลือให้เราทำก็คือ การสร้างเปลือกเพื่อห่อหุ้มสิ่งเก่าให้ดูใหม่และตอบสนองกับความต้องการของโลกเราอยู่ตลอดเวลา
มันจึงถือเป็นเรื่องดีสำหรับเราที่สามารถย่นระยะเวลาในกระบวนการคิดค้นออกไปได้ แต่หน้าที่ของเราคือการสู้รบกับโลกของการดีไซน์ในปัจจุบัน โลกที่ให้ความสำคัญกับการนำเสนอภาพลักษณ์ ความสวยงาม ความเหมาะสม รวมทั้งตอบสนองสไตล์ที่แตกต่างกัน
สิ่งต่างๆรอบตัวเราถ้าจะให้มองด้านการใช้งานและประโยชน์ใช้สอย การเกิดและการพัฒนาได้เคลื่อนที่ไปในแนวระนาบอย่างช้าๆ แต่สิ่งที่ยังคงวิ่งอยู่และเกิดขึ้นแทบตลอดเวลาอย่างไม่หยุดนิ่งคือการดีไซน์ที่เปลี่ยนแปลงสิ่งเดิมให้เกิดสิ่งใหม่ตลอดเวลา ขนมหนึ่งถุงที่มีหีบห่อที่งดงามเกินห้ามใจ ช่วยทำให้ขนมที่รสชาติไม่เอาไหนขาดดิบขายดีกว่าการขายในถุงกระดาษ
แต่หากปราศจากขั้นตอนดีไซน์ กระบวนการสำคัญที่เป็นหัวใจทำให้เกิดความเป็นตัวตน หากทุกคนเชื่อถือในกราฟิกสะดวกซื้อ และตัดความสำคัญของการดีไซน์ไป โลกคงจะหยุดนิ่ง และทุกสิ่งก็คงจะเคลื่อนที่ไปอย่างน่าเบื่อหน่าย เหมือนมองไปทางไหนก็มีแต่สีขาวและดำเป็นแน่แท้..